วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ทำ 4 ข้อก็สุขได้

การบรรยายธรรมะโดยท่าน ว.วชิรเมธี ท่านได้ให้พร ข้อ ดังนี้
 1. 
อย่าเป็นนักจับผิด  
คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง
 'กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก'  คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส 'จิตประภัสสรฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี ' แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข '

 2. 
อย่ามัวแต่คิดริษยา   
'
แข่งกันดี ไม่ดีสักคน  ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน
คน เราต้องมี 
พรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า 
'เจ้ากรรมนายเวร ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ ฉะนั้น เราต้องถอดถอน   
ความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น 
'ไฟสุมขอน(ไฟเย็น) เราริษยา 1คน เราก็มีทุกข์ ก้อน
เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี 
'แผ่เมตตา' หรือ ซื้อโคมลอยมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา 
แล้วปล่อยให้ลอยไป


 3. 
อย่าเสียเวลากับความหลัง  
90% 
ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ 'ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น
มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องภาระต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย
 
ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ ' อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน ' 
'
 อยู่กับปัจจุบันให้เป็น '  ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี 'สติ' กำกับตลอดเวลา


 4. 
อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ   
'ตัณหา'ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ  
ธรรมชาติของตัณหา คือ 'ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม'  
ทุกอย่างต้องดู 
' คุณค่าที่แท้จริง ' ไม่ใช่ คุณค่าเทียม เช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกาคืออะไร ? คือไว้ดูเวลาไม่ใช่ใส่เพื่อความโก้หรู
คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือคืออะไร ? คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าที่แท้จริงของโทรศัพท์  

เราต้องถามตัวเองว่า 
'เกิดมาทำไม' คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน ตามหา ' แก่น ' ของชีวิตให้เจอ
คำว่า 
'พอดี'  คือ ถ้า 'พอแล้วจะ 'ดี'    รู้จัก 'พอจะมีชีวิตอย่างมีความสุข' 









กรุณาส่งข้อความดีๆ นี้ให้คนที่ท่าน 
'รักและ'ปรารถนาดี ' 
หวังว่าทุกๆท่านจะได้ประสบแต่ความสุขกายสบายใจ



                                      

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น