วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คุณดื่มน้ำน้อยไปหรือเปล่า

คุณดื่มน้ำน้อยไปหรือเปล่า
โดย sunanta | วันที่ 3 มิถุนายน 2554
คนเราสามารถอดอาหารได้นานเป็นเดือน แต่ถ้าขาดน้ำเพียงแค่ 3 วันก็ไม่รอดแล้ว น้ำมีความสำคัญต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายอย่างมาก เคยสังเกตไหมว่าในแต่ละวันคุณดื่มน้ำปริมาณมากน้อยแค่ไหน นักโภชนาการลงความเห็นว่า ปัจจุบันคนเมืองส่วนใหญ่ดื่มน้ำเปล่าไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย บางคนให้เหตุผลว่าน้ำเปล่าไม่ซ่า ไม่หวาน ไม่อร่อย เหมือนน้ำอัดลม น้ำผลไม้ หรือชา กาแฟ ทำอย่างไรเราจึงจะดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้นในแต่ละวัน

http://www.thaihealth.or.th/sites/default/files/users/user-12660/water.jpg

ความต้องการน้ำของแต่ละคนจะต่างกันไปตามอายุ ขนาดของร่างกาย กิจกรรมที่ทำ สภาพแวดล้อม และสภาวะของร่างกาย เด็กจะต้องการน้ำมากกว่าผู้ใหญ่ สภาวะบางอย่างก็ทำให้ร่างกายต้องการน้ำมากขึ้น เช่น มีไข้ อาเจียน ท้องเสีย ปัสสาวะบ่อย มีเหงื่อออกมากกว่าปกติ เป็นต้น

คำแนะนำสำหรับคนทั่วไปก็คือ ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว นี่ถือว่าเป็นปริมาณน้อยแล้วถ้าเทียบกับสารพัดสูตรที่ออกมาใหม่ว่าให้ดื่มน้ำวันละเท่านั้นเท่านี้ การดื่มน้ำมากๆ ไม่เป็นผลดีสำหรับทุกคนเสมอไป แต่การดื่มน้ำน้อยเกินไป ก็ไม่ใช่ผลดีเช่นกัน

บางคนอาจจะไม่ชินที่ต้องพยายามดื่มน้ำให้ได้ตามปริมาณที่แนะนำ และดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน แรงจูงใจในการดื่มน้ำให้ได้เพียงพอในแต่ละวันก็คือ ต้องไม่ลืมนึกถึงผลเสียที่จะตามมาหากร่างกายขาดน้ำ

เคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณดื่มน้ำให้ได้มากขึ้นในแต่ละวัน มีดังนี้

- เมื่อตื่นนอนคุณมักจะกระหายน้ำ เป็นโอกาสดีที่จะดื่มน้ำตอนที่กำลังรู้สึกกระหาย เพราะคุณจะดื่มได้มากโดยไม่ลำบากเลย นอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกายแล้ว ยังช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายอีกด้วย

- อย่าดื่มน้ำเฉพาะเวลาที่รู้สึกกระหาย แต่ให้ดื่มทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ เพราะหากรอให้กระหายน้ำก่อน นั่นแสดงว่าร่างกายของคุณเริ่มขาดน้ำแล้ว

- ไม่จำเป็นต้องดื่มครั้งเดียวให้หมดแก้ว ให้ใช้วิธีจิบทีละนิด แต่จิบบ่อยๆ ตลอดทั้งวัน จะไม่ทำให้รู้สึกจุกหรือปวดปัสสาวะหลังจากดื่มน้ำ

- หาขวดน้ำและแก้วน้ำวางไว้ใกล้ๆ ตัว โดยเฉพาะเวลาทำงาน จะช่วยให้คุณดื่มน้ำได้สะดวกขึ้น จะได้ไม่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนลืมดื่มน้ำ

- หากวางน้ำไว้ใกล้ตัวแล้วยังลืมอีก อาจจะลองใช้วิธีตั้งนาฬิกาเตือนให้ดื่มน้ำทุกๆ ชั่วโมง

- หากไม่ชอบรสชาติจืดชืดของน้ำเปล่า ลองบีบมะนาวลงไปเล็กน้อยก่อนดื่ม เพื่อช่วยเพิ่มรสชาติให้กับน้ำเปล่า

- หากคุณดื่มชากาแฟปริมาณมาก วันละหลายๆ แก้ว ก็ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้นเพื่อชดเชยน้ำในร่างกายที่อาจจะสูญเสียไปจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน เนื่องจากกาเฟอีนปริมาณมากมีฤทธิ์ขับน้ำออกจากร่างกาย

- ทุกครั้งที่เสียเหงื่อจากการทำงานหรือการออกกำลังกาย อย่าลืมดื่มน้ำชดเชยกับที่ร่างกายต้องสูญเสียไป

- เมื่ออยู่กลางแดดหรืออยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด ควรดื่มน้ำเพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไปเช่นกัน

- หากรู้สึกหนาว ควรดื่มน้ำอุ่นก่อนที่จะนึกถึงชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มชนิดอื่น น้ำอุ่นจะช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เหมาะสมได้

- น้ำช่วยลดความอยากอาหารลงได้ บางครั้งเมื่อเรานึกอยากกินอะไร มันอาจเป็นแค่ ความอยาก” ไม่ใช่ความหิว” ดังนั้น ใครที่อยากลดน้ำหนัก หากรู้สึกหิวระหว่างมื้อ ลองดื่มน้ำเปล่าแทนก่อน ความอยากนั้นอาจจะหายไป

- ดื่มน้ำเปล่าไม่ทำให้อ้วนเหมือนน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชาหรือกาแฟ เพราะน้ำเปล่าไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลที่อาจจะสะสมเป็นส่วนเกินในร่างกาย

- น้ำเปล่าช่วยให้ผิวสวย เพราะน้ำเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเซลและเนื้อเยื่อในร่างกาย การดื่มน้ำจะช่วยชดเชยน้ำที่สูญเสียไป ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น ไม่เหี่ยวแห้งง่าย

- ดื่มน้ำเปล่าช่วยให้ท้องไม่ผูก เพราะน้ำจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น อุจจาระไม่แข็งและไม่ต้องเบ่งจนทำให้เป็นริดสีดวงทวาร

- น้ำเปล่าราคาถูกกว่าน้ำดื่มอื่นๆ แถมบางแห่งมีบริการฟรีอีกด้วย

- หมั่นตรวจดูปัสสาวะของตัวเอง หากปัสสาวะใสดี แสดงว่าร่างกายของคุณได้รับน้ำอย่างเพียงพอ แต่หากปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม แสดงว่าคุณดื่มน้ำน้อยเกินไปแล้

คุณอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำได้อย่างทันทีทันใด จากคนที่ดื่มน้ำน้อย มาดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ก็คงจะเป็นไปได้ยาก แต่เมื่อค่อยๆ ปรับพฤติกรรม เริ่มจากการดื่มน้ำ 1 แก้วในตอนเช้าทุกวันจนเป็นนิสัย จากนั้นค่อยๆ เพิ่มปริมาณการดื่มน้ำระหว่างวันให้มากขึ้นจนกลายเป็นกิจวัตร เมื่อคุณดื่มน้ำได้อย่างเพียงพอ จะรู้สึกได้เลยว่าสุขภาพของคุณดีขึ้น

 ที่มา ASTV ผู้จัดการ โดย เอมอร คชเสนี

goodhealth.gifResized_03-คุณจิราภรณ์  สุวรรณประเสริฐ.jpg



-- 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น