วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Case อ่านสนุก ถอนเงินไม่ได้เงิน ธนาคารไทยพาณิชย์

บันทึก
จาก: Krilerk Maitrewong/CU/KBANK 
ผู้ส่ง: Krilerk Maitrewongวันที่: 01/06/2011 09:03
ถึง
สำเนา
เรื่อง
Fw: Case อ่านสนุก ถอนเงินไม่ได้เงิน ธนาคารไทยพาณิชย์

จดหมายหมดอายุวันที่ 30/08/2011



        ฝาก Case มาให้อ่าน ที่อยากบอกคือ เวลามีกรณีแบบนี้ พี่จุก ของไทยพาณิชย์จะมาตอบ แต่คราวนี้ปรากฏว่า มี SCB THailand เข้ามาตอบด้วย 
ในนามของธนาคารไทยพาณิชย์ เลยโดนลูกค้าด่ากันกระเจิง  ถ้ามีเวลาก็ลองอ่านดูครับ

----- Forwarded by 
        
        http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I10592623/I10592623.html 
        พอดีไปอ่านเจอในพันทิพ เป็นกระทู้ที่คนตอบกันเยอะมากกว่า 400 คน สรุปว่า ธนาคารไม่คืนเงิน อยากให้อ่านเล่นสนุก ๆ ถ้ามีเวลาว่าง 
แต่ที่สงสัยคือ ไอ้ตัวหนังสือ N100 N300 มันคืออะไร แล้วธนาคารไทยพาณิชย์ ถอนเงินจากตู้ มันมี SMS ส่งมาที่โทรศัพท์มือถือด้วยเหรอครับ         

        วันที่ 12 เมษายน 2554 ผมได้ไปกดเงินที่ตู้ ATM ของไทยพาณิชย์ หน้าหมู่บ้านพฤกษา D โดยบัตรที่กดก็เป็นบัตรของธนาคารไทยพาณิชย์ หลังจากใส่บัตรเข้าไปหน้าจอเครื่อง  ATM ก็เป็นสีขาวแล้วมีตัวเลข 100N 500N 1000N และ   ภาษาอังกฤษคำว่าอะไรบ้างผมจำไม่ได้แล้ว ผมก็เลยตกใจเลยกดปุ่มอะไรไปหลายปุ่มเพื่อที่จะให้บัตรเด่งออกมา แต่ปรากฏว่ามันมี SMS ของธนาคาร แจ้งมาที่โทรศัพท์ของผมว่า ผมได้ถอนเงินไป 10000 บาทผมเห็นเป็นเช่นนั้นผมก็รีบโทรไปที่ธนาคาร 027777777 พอโทรไปผมก็เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เจ้าหน้าที่ฟังเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็บอกผมว่าต้องใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 2 อาทิตย์ ครั้งนั้นผมยังไว้ใจธนาคารผมจึงไม่ได้โทรไปสอบถามจนครบ 2 อาทิตย์ และในระหว่างที่ผมคุยโทรศัพท์ผมก็ให้ภรรยาผมได้เฝ้าตู้ไปด้วยเผื่อเงินมันจะเด้งออกมา ผมใช้เวลาคุยกับเจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 15 นาที แต่ก็ไม่มีเงินออกมา 
          
             แล้วในวันนั้นผมก็ได้ไปทำบัตร ATM ใหม่ที่สาขาคาร์ฟูรคลองสาม เผื่อในวันสงกรานต์ผมเกิดต้องการใช้เงิน ในวันที่ 26 มีเจ้าหน้าที่โทรมาถามผมว่า วันที่ทำรายการวันที่ 12 เมษายน ผมได้ทำรายการฝากเงินที่ไหนหรือเปล่า ผมก็บอกไปว่าผมได้ฝากเงินที่ไทยพาณิชย์สาขาคาร์ฟูคลองสาม เป็นเงินจำนวน 10000 บาท เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็พูดเหมือนกับว่าผมถอนเงินแล้วได้เงินไปแล้วเอาไปฝาก ผมก็เลยบอกว่ามันเป็นเงินที่ผมทำธุระกิจขายเสื้อผ้าได้ แล้วเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็แจ้งผมว่าจากการตรวจสอบแล้วเครื่องทำรายการปกติ ผมก็เลยบอกว่ามันจะปกติได้ยังไงในเมื่อเงินมันก็ไม่ออกมา แล้วผมก็ไม่ได้ตั้งใจไปกดเงินถึง 10000 บาท 

              แล้วเครื่อง ATM มันก็ยึดบัตรของผมไป แล้วผมก็เลยถามไปว่าธนาคารตรวจสอบยังไงเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็บอกว่าเขาต้องดูรายการจากที่ตู้ ATM แล้วดูเงินที่เหลือที่ตู้ ว่าตรงกันหรือไม่ถ้าตรงกันก็ถือว่าเครื่องทำรายการปกติ ( ในใจผมคิดแล้วแหละว่าในธนาคารจะต้องมีพนักงานคนใดคนหนึ่งที่เอาเงินไป  เพราะถ้าตรวจจริงๆยังไงก็ต้องไม่ปกติ เพราะผมไม่ได้เงินแล้วถ้าพนักงานที่ตรวจสอบเอาเงินไปละ หรือว่าเงินคาอยู่ที่ตู้แล้วคนเปิดตู้เอาเงินไปละ แล้วผมคอยนานตั้งเกือบ 20 นาทีเงินมันไม่ออกมาจากตู้ถ้าออกมาหลังจากนั้นความรับผิดชอบก็ควรต้องอยู่ที่ธนาคาร และระหว่างที่ผมกดเงินตู้ ATM มันก็เสีย  ) 

             แล้วเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็บอกว่าถ้าลูกค้าต้องการให้ตรวจสอบรอบสองก็สามารถยื่นตรวจสอบได้โดยต้องไปแจ้งความแล้วเอาใบแจ้งความแฟกซ์มาที่ธนาคารเพื่อที่จะทำการตรวจสอบแล้วใช้ระยะเวลาตรวจสอบประมาณ 1 อาทิตย์ 

             ผมก็ไปแจ้งความในวันนั้นแล้วส่งแฟกซ์ไปในวันนั้น แล้วโทรไปบอกกับพนักงานว่าผมได้ส่งแฟกซ์ไปแล้วแล้วถามว่าวันไหนผมจะรู้คำตอบเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าใช้เวลา 7 วัน วันที่ 4 พฤษภาคม 2554 จะรู้ผลการตรวจสอบ ระหว่างที่ผมรอการตรวจสอบผมก็ได้โทรไปถามความคืบหน้าเกือบทุกวัน เพราะความไว้ใจธนาคารแทบจะไม่เหลือแล้วและวันที่ 4 พฤษภาคม 2554 ผมก็ได้โทรไปถามผมสรุปการตรวจสอบ มีเจ้าหน้าที่ผู้ชายท่านหนึ่งรับแล้วบอกผมว่าผลการตรวจสอบยังไม่เสร็จต้องรอตอนเย็นประมาณ 6 โมงเย็น ผมก็เลยบอกว่าถ้าผลตรวจสอบยังเป็นเหมือนเดิม ผมอยากจะทราบวิธีการตรวจสอบ และก็อยากจะดูกล้องวงจรปิด แล้วคนที่ถอนเงินก่อนหน้าผมและก็หลังผม 

                เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็บอกว่าธนาคารตอนนี้ตรวจสอบอยู่ต้องทำตามขั้นตอนแล้วถ้าเสร็จแล้วจะโทรมาแจ้งผม พอ 6 โมงเย็นเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็โทรมาแล้วแจ้งผมว่าผลการตรวจสอบยังไม่ออกมาแล้วบอกว่าจะโทรมาแจ้งอีกทีก่อนเลิกงานประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง พอถึงเวลาเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็โทรมาแล้วบอกผมว่าทางธนาคารจะเอาเรื่องของผมเข้าที่ประชุมเพื่อที่จะคืนเงินลูกค้า ในวันศุกร์เพราะธนาคารจะประชุมทุกๆวันศุกร์  ผมก็เลยบอกว่ามันเป็นเงินของผมทำไมต้องเอาเขาที่ประชุมด้วยทำไมไม่คืนมาเลย เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็บอกเหมือนกับว่ามันเป็นระเบียบของธนาคาร แล้วเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ขอร้องผมว่าในระหว่างที่รอผมอย่าเพิ่งโทรมาสอบถามได้มั้ยเจ้าหน้าที่ท่านนั้นบอกว่าถ้าประชุมเสร็จจะโทรมาเองอาจจะมืดหน่อย ผมก็เลยตอบตกลง   
    
         พอวันศุกร์ผมก็คอยจนถึงประมาณ 1 ทุ่มเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ยังไม่โทรมาผมก็เลยโทรไปมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงรับ ผมก็เลยโทรไปสอบถาม เจ้าหน้าที่ผู้หญิงท่านนั้นก็บอกผมว่าผลการตรวจสอบออกมาว่า เครื่องทำรายการปกติ เมื่อเป็นเช่นนั้นผมก็เลยบอกว่าผมต้องการหลักฐานการตรวจสอบ  เพราะผมไม่เห็นการตรวจสอบและไม่รับรู้อะไรเลยซักอย่าง พูดเอง คิดเองเออเอง สรุปเองอยู่ฝ่ายเดียว เพราะผมไม่ได้เงินมาจริงๆ รู้เพียงแต่ว่าผมต้องเสียเงินไป 10000 เพราะความผิดพลาดของระบบตู้ ATM และ พนักงานตรวจสอบของธนาคารหรือ 
          
                   แล้วผมก็บอกกับพนักงานท่านนั้นว่า ผมต้องการคุยกับผู้จัดการที่เขาดูแลทางนี้โดยตรง เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็บอกผมว่าคงต้องเป็นวันจันทร์ ผมบอกว่าผมคอยไม่ไหวแล้ว ผลัดผมมาเรื่อยๆ ยิ่งนานวัน คนที่ทำความผิดมันก็ต้องทำลายหลักฐาน เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็บอกผมว่าเดี๋ยวจะโทรมาหาผมอีกที ผมก็เลยบอกว่าให้โทรมาภายในวันนี้ผมจะเปิดสายรอตลอด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็วางไป สักประมาณ 5 นาทีเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็โทรมาแล้วบอกว่า พนักงานทั้งผู้จัดการกลับไปหมดแล้ว ถ้าผมโทรมาเร็วกว่านี้ก็อาจจะคุยได้ ( สรุปเจ้าหน้าที่ผู้ชายที่รับสายที่ขอร้องผมว่าอย่าโทรมาเพื่อที่จะหลอกเพื่อติดเสาร์อาทิตย์หรือ ) แล้วเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็รับปากผมว่าวันจันทร์จะให้ผู้จัดการหน่วยของเขาโทรมา 
                  
             พอวันจันทร์ ที่ 9 พฤษภาคม 2554  ก็ยังไม่มีใครโทรมาผมก็เลยโทรไปที่ธนาคาร แล้วขอสายคุยเจ้าหน้าที่ท่านนั้น แต่ว่าเจ้าหน้าที่คนใหม่ก็รับเรื่องแทนใหม่  ผมก็เลยบอกว่าต้องการที่จะติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สามารถมาดูแลจัดการปัญหาของผมได้  แล้วผมก็ได้รับคำตอบจากพนักงานท่านใหม่เหมือนเดิมว่า ตู้จ่ายเงินปกติลูกค่ารับเงินไปแล้ว และบอกผมอีกว่ายืนเรื่องของผมไปแล้วกรรมการไม่อนุมัติเพราะปิดการตรวจสอบยอดเงินตรงนี้ไปแล้ว ธนาคารปิดยอดเงินตรงนี้ได้อย่างไร เพราะผมไม่เคยยอมความตั้งแต่การตรวจสอบครั้งแรก แล้วผมก็ขอดูกล้องวงจรปิดมาโดยตลอด แต่ก็ไม่เคยได้ดูหลักฐานเกี่ยวกับการตรวจสอบตรวจสอบยังไง ผมก็ไม่เคยได้เห็น 

                         วันที่ 12 พฤษภาคม 2554 ผมจึงได้ไปขอเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ออกหนังสือเพื่อที่จะให้ธนาคารไทยพาณิชย์เพื่อที่จะเอากล้องวงจรปิดมาให้ผมดู แล้วผมก็เดินทางไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์( สำนักงานใหญ่ ) ไปติดต่อที่ประชาสัมพัน  แล้วพนักงานประชาสัมพันก็ให้เบอร์โทรเพื่อที่จะให้ติดต่อหน่วยงานที่เขาดูแลเรื่องกล้องวงจรปิด แล้วผมก็ได้โทรไปหาเจ้าหน้าที่ท่านนั้น( เจ้าหน้าที่ท่านนั้นชื่อ คุณวินัย ) เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็บอกผมว่ากล้องวงจรปิดไม่มี มันจะมีภาพเป็นช็อต ๆ  ผมก็เลยบอกว่าภาพเป็นซ็อตๆก็ได้เขาก็เลยบอกผมว่าให้ไปคอยเอาที่สาขารัชโยธิน ประมาณครึ่งชั่วโมงเขาก็ส่งภาพนั้นมาให้ผม   
        ภาพที่ผมเห็นผมบอกเลยว่ามันไม่ใช่มันเหมือนเป็นภาพแก้ไข ภาพเป็นซ็อตๆ ภาพขาวดำเหมือนกับจะทำให้ภาพไม่ชัด   
        ภาพที่ 1 – 2 – 3 มันเป็นภาพผมกำลังกดเงินที่หน้าตู้อยู่ 
        ภาพที่ 4 มันเป็นภาพใครก็ไม่รู้แล้วมีเงินออกมาแต่ไม่มีคใรหยิบ 
        ส่วนภาพที่ 5 – 6 เป็นภาพเปล่าที่ไม่มีใครแล้ว 
        ผมจึงขอให้เจ้าหน้าที่อธิบายว่ามันคืออย่างไรสำหรับภาพ เขาบอกว่า พอใส่บัตรกล้องตัวบนจะจับภาพ    พอกดรหัส กล้องตัวบนจะจับภาพ   พอเงินออกกล้องตัวล่างจะจับภาพ ( ไม่เห็นหน้า ) แล้วพอลูกค้าออกไปกล้องจะจับ  แต่ในภาพมันขัดแย้งกับความจริง 
        ผมบอกว่าใส่บัตรไปกล้องตัวบนจับ ใส่รหัสกล้องตัวบนจับ เงินออกกล้องตัวล่างจับ แล้วทำไมตอนหยิบเงินทำไมถึงไม่มีกล้องจับ ไปจับอีกทีตอนคนออกไปแล้วประมาณนาทีกว่า ผมว่าภาพมันเหมือนจงใจจะให้ผมผิด แล้ววันนั้นผมก็กลับบ้าน วันรุ่งขึ้นผมก็โทรมาขอความกระจ่างของภาพ พร้อมทั้งบอกว่าผมต้องการที่จะดูภาพวงจรปิด แล้วขอมาโดยตลอด 

                        จนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2554 เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าจะให้ผมดู โดยดูจากเครื่อง ATM เลย แต่ภาพวงจรปิดไม่มีจะมีก็ภาพเป็นช็อตๆเหมือนเดิม  ผมก็บอกว่าภาพที่เก็บนี่มันก็นานเป็นเดือนแล้ว บวกกลับผมได้หมดความไว้ใจกับพนักงานตรวจสอบของธนาคารนี้แล้ว  ผมจะไม่ขอดูแค่ภาพนั้นแล้ว แต่ว่าผมจะขอดูภาพใหม่โดยที่ผมจะกดเงินใหม่ๆเดี๋ยวนั้น แล้วเอาภาพที่ผมกดใหม่ๆมาให้ผมดู แล้วก็ถามเขาว่าภาพมันก็จะถ่ายได้เหมือนเดิมใช่มั้ย ๆถ่ายได้ 6 ช็อตเหมือนเดิม เขาบอกว่ามันก็จะเป็นเหมือนเดิม  ผมบอกว่า OK ถ้าภาพมันออกมาเป็นเช่นนั้นถ่ายได้ 6 ซ็อตเหมือนเดิม ผมจะยอมถอยและถือว่าดวงไม่ดีเอง  ( แต่ที่ถอยนี้ถอยเพราะเหนื่อย  ต้องเสียเวลาในการดำเนินกิจการของผม  เสียเงินค่าดำเนินการแต่คดีความไม่คืบหน้า  แต่ผมก็ยังยืนยันว่าผมไม่ได้รับเงิน  ) 

                    ผมได้กดเงินที่ตู้ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกผมได้ใส่บัตร กดรหัส และกดเบิกเงิน 200 บาท พอเงินออกมา ผมยังไม่หยิบ รอประมาณ 15 วินาที จึงหยิบ  ครั้งที่ 2 ผมได้ใส่บัตร กดรหัส กดเบิกเงิน 200 บาท แล้วก็ไปเดินเล่นหน้าตู้โดยที่ไม่หยิบเงินจนมันยึดบัตร ATM ไปแต่เงินมันไม่ดูดคืน ผมก็เลยไปดึงเงินมา  แล้วก็โทรไปแจ้งอายัดบัตรที่ CALLCENTER แล้วก็ให้ช่างเปิดตู้ ATM ออกเพื่อที่จะดูภาพ ภาพที่ผมเห็น เรื่องที่ผมกดเงินไม่ออก 10000 บาทนั้นเหมือนเดิม มี 6 ภาพ ภาพขาวดำส่วนภาพอื่นต่อจากผมช่างเขาไม่ให้ดูเพราะเป็นบุคคลอื่น ส่วนภาพใหม่ที่ผมกดนั้นเป็นภาพสี แค่ใส่บัตรไปกล้องก็จับทั้งตัวล่างและตัวบนแล้ว เห็นหน้าชัดเจน กดรหัสก็เหมือนกัน เงินออกก็เหมือนกัน ส่วนที่ผมบอกว่ารอประมาณ 15 วินาทีค่อยถึงเงินออก พอดึงออกมันก็ยังถ่ายได้ สมบูรณ์มาก 

                  ถ้าเจ้าหน้าที่เอาภาพที่ตรวจสอบครั้งแรกแบบนี้มาให้ผม ก็จะเห็นว่าใครเป็นคนเบิกเงินหยิบเงินไปทันที  ส่วนการกดครั้งที่ 2 เหมือนเดิมทุกประการ แต่ที่ผมออกมาเดินเล่นหน้าตู้มันก็ยังจับภาพผมตลอด หลายช็อต ขัดแย้งกับที่เจ้าหน้าที่ชี้แจงทุกประการ ผมเห็นเป็นเช่นนั้นผมจึงได้โทรไปหาพนักงานที่ดูแลท่านนั้น แต่พอเขารับสายได้ยินเสียงผมก็วางหูไปเลย แล้วก็โทรหาไม่ติดอีกผมจึงโทรไปหา CALLCENTER ให้ตามพนักงานท่านนั้นก็ปรากฏว่าตามไม่ได้ เขาจึงให้ชื่อพนักงานอีกท่านที่ดูแลเรื่องนี้ และเบอร์โทรติดต่อโดยตรงผมจึงติดต่อแต่ปรากฏว่าเขาเลิกงานหมดแล้ว 
                  
                   วันที่ 20 พฤษภาคม 2554 ผมก็ได้โทรไปหาพนักงานท่านแรกที่รับสายผมแล้ววาง ปรากฏว่าพนักงานเขาก็รับสายพอคุยไปจนรู้ว่าเป็นผมเขาก็วางอีกแล้วโทรไปก็ไม่รับอีกเลย ผมจึงโทรไปหาพนักงานอีกท่านที่ได้เบอร์โทรมาจาก CALLCENTER 
ผมก็โทรไปก็คุยกับพนักงานท่านนั้น ( พนักงานท่านนั้นชื่อ คุณสุพจ พงศ์วิจิตร ) แล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมด และ จุดหน้าสงสัยของเหตุการครั้งนี้ แล้วก็ถามพนักงานท่านนั้นว่าเรื่องราวของผมที่เล่ามานี้จะดำเนินการอย่างไรต่อ เขาบอกว่าเรื่องก็จบแล้วตรงที่เครื่องทำรายการปกติ ผมก็เลยถามเขาไปว่า ไม่คิดที่จะแก้ไขเลยเหรอว่าเป็นความผิดของใคร ทำไมหลักฐานที่ได้มาตรวจสอบมันถึงเป็นอย่างนี้ไม่ตรงกับความจริง แล้วใครเป็นคนหยิบเงินทำไมถึงไม่ถ่าย ครั้งแรกที่ผมแจ้งผมก็บอกว่าตู้เสีย แล้วถามเขาว่า ทำไมไม่ดูว่าเงินออกหลังจากนั้นแล้วมีใครมาหยิบเงินผมไปหรือเปล่า เขาบอกว่าเขายึดตามภาพ 6 ภาพนั้น เขาบอกว่าผมอาจจะไม่ได้เงินไปจริง แต่เมื่อตู้จ่ายเงินแล้วทุกอย่างก็คือจบ แล้วจะไปดูว่ามีใครเงินผมไปหรือเปล่าก็ไม่ได้เพราะเป็นหารละเมิดสิทธิบุคคล พอได้ฟังอย่างนี้ผมจึงได้ต่อว่าไปชุดใหญ่ เป็นใครก็คงต้องโมโหกับคำตอบ ผมบอกไปว่าถ้าเขาเป็นตำรวจ ก็คงมีแต่แพะ  นี้หรือคือมาตรฐานของธนาคารไทยพาณิชย์ ถ้าเป็นอย่างนี้ควรติดข้างตู้เหมือนซองบุหรี่ว่า การกดเงินมีความเสี่ยงสูง  ผู้กดจะต้องรับผิดชอบเองทุกกรณี 


เรียน ท่านเจ้าของกระทู้คะ

สำหรับกรณีนี้ ธนาคารฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบตามมาตรฐานงานธนาคารร่วมกับท่าน
ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมผลสรุปให้ท่านได้ทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว      
จึงขออนุญาตยึดตามคำชี้แจงที่ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้นะคะ
ขอบพระคุณค่ะ



จากคุณ: SCB Thailand (SCB Thailand) 
เขียนเมื่อ: 23 พ.ค. 54 19:22:11 



เรียน ท่านเจ้าของกระทู้ และ ชาว Pantip ทุกท่านคะ

ขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมค่ะ สำหรับข้อความที่ท่านเจ้าของกระทู้นำมาโพสท์นี้ เป็นข้อความเดียวกับที่ท่านได้ร้องเรียนผ่านธปท. มายังธนาคาร
และสอดคล้องกับข้อความร้องเรียนที่ส่งตรงถึงธนาคารก่อนหน้า ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงผู้บริหารของธนาคารได้รับทราบ
และได้มีการดูแลตรวจสอบตั้งแต่ต้น มีการพิจารณา และดำเนินการอย่างถี่ถ้วนโปร่งใสค่ะ ซึ่งตามระเบียบแล้ว เมื่อมีกรณีร้องเรียนใดๆ ผ่าน ธปท.
ธนาคารจะมีขั้นตอนในการชี้แจงทั้งผู้ร้องเรียนและธปท. เพื่อให้รับทราบถึงกระบวนการตรวจสอบ และดำเนินงานที่โปร่งใส ชัดเจนค่ะ

อย่างไรก็ตาม สำหรับ SCB Thailand ในฐานะตัวแทนธนาคาร ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของลูกค้า หรือขั้นตอนการตรวจสอบเชิงลึกในเว็บบอร์ด ซึ่งเป็นสื่อสาธารณะได้
กราบขออภัยทุกท่านเป็นอย่างสูงนะคะ



จากคุณ: SCB Thailand (SCB Thailand) 
เขียนเมื่อ: 24 พ.ค. 54 10:58:58 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น