ทำไมต้องชำระหนี้สงฆ์ โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ต้องปฏิบัติตามนั้นขายหรือให้ ใครต้องปฏิบัติตามนั้นนะแม้แต่ ดอกไม้บูชาพระ ก็เหมือนกัน ถ้าท่านผู้ปลูกยังมีชีวิ ตขอเฉพาะท่านได้ ถ้าท่านผู้ปลูกตายไปแล้วหรือสึ กไปแล้ว อันนี้เป็นของสงฆ์ ต้องเป็นเรื่องของสงฆ์วินิจฉัย ไม่ใช่พระองค์ใดองค์หนึ่งเป็นผู ้ให้ หรือไปขอเก็บเด็กวัดอันนี้ไม่ถู กต้อง ลงอเวจี
และอีกเรื่องหนึ่ง กากะเปรต สมัยที่เกิดเป็น กา แย่งข้าวในขันที่ เขานำไปจะถวายพระ ข้าวสุกนั้นเขานำไปยังไม่ถึงพระ ยังไม่ใช่ของสงฆ์ จะถือว่าเป็นของชาวบ้านก็ไม่ได้ เพราะเขาตั้งใจถวายสงฆ์แล้ วกรรมเล็กน้อยเพียงเท่านี้ ตายไปแล้วไปลง อเวจี แล้วแถมมาเกิดเป็น เปรตผู้ถาม หลวงพ่อครับ คนที่กินข้าวที่พระอนุญาติแล้ว ทำไมถึงตกนรก และพระที่ให้ก็ต้องตกนรกด้วยครั บ....?หลวงพ่อ ถ้าอาหารที่พระให้ต้องเป็ นของญาติโยมที่ถวายเฉพาะองค์นั้ น ไม่มีโทษแน่ แต่ที่เป็นอย่างนี้ต้องเป็ นอาหารที่เขาถวายเป็นส่วนกลาง คือเป็นของสงฆ์ ของสงฆ์นั้นพระองค์ใดองค์หนึ่ งไม่มีสิทธิ์ให้ นอกจากสงฆ์จะประชุมตกลงให้ พระองค์นั้นเป็นผู้จ่ายแทนสงฆ์ ตัวอย่างของสงฆ์เช่น อาหารวันพระ ที่ มีข้าวใส่บาตรเหลือมากๆ แล้วทายกใส่ถ้วยเอาไปกินบ้าน โดยที่คณะสงฆ์ไม่มีส่วนรู้เห็น อย่างนี้ แม้แต่เจ้าอาวาสเองยังไม่มีสิ ทธิ์ให้ต่มลำพังบางทีกินอาหารที่ พระฉันเหลือ ถ้าพระอนุญาติแล้วไม่มีโทษ( สำหรับโยมที่ไปในงาน ทางวัดเขาตั้งใจเลี้ยงก็ไม่เป็ นไร) แต่บางท่านก็หยิบของที่พระฉั นแล้วเอามาเฉยๆ บางท่านก็ขอเอาดื้อๆ ให้หรือไม่ให้ก็ตาม ออกปากขอแล้วยกไปเลย พระยังไม่ทันอนุญาติ ท่านทายกประเภทนี้ ท่านช่วยยกคนที่กินกับท่ านลงอเวจีแบบสะดวก เมื่อจะขอต้องดูว่าอาหารมากไหม ถ้ามากจนเหลือเฟือ ก็ขอให้พระท่านให้ ตามความพอใจของท่าน เพราะท่านอาจมีกั งวลนำอาหารไปให้ใครก็ได้ ที่ท่านมีภาระต้องเลี้ยง ถ้าถือเอาตามความพอใจก็ต้องถื อว่าแย่งอาหารจากพระมีโทษ 100 เปอร์เซ็นต์และอาหารถวายพระพุทธรูป ก็เหมือนกัน อาหารประเภทนี้ดูเหมือนจะเป็ นเหยื่อล่อให้ทายกลงอเวจี สะดวกสบายมาก อาหารที่เขานำมาวัด เขาตั้งใจถวายพระสงฆ์ การนำไปถวายพระพุทธรูปนั้นเป็ นความดี เพราะเป็นพุทธานุสสติด้วย เป็นพุทธบูชาด้วย แต่อาหารประเภทนี้ไม่จำเป็นต้ องใช้มาก เพราะพระพุทธรูปไม่ได้ฉัน ท่านจะฉันหรือไม่ฉันก็ตาม อาตมาคิดว่าทายกทายิกาไม่มีสิ ทธิ์จะกิน หลายวัดหรือส่วนใหญ่ ทายกมักจะเอาอาหารดีๆ และมากๆ ไปทุ่มเทถวายพระพุทธรูปเมื่อพระฉันเสร็จแล้ว ต่างก็ยกเอามากิน ตอนนี้ไม่ถูกด้วยประการทั้งปวง ต้องเอาไว้ถวายพระตอนเพลจึงจะถู ก ทายกทายิกาจะกินได้เฉพาะอาหารที ่เหลือเป็นแดนจากพระฉันเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์สถาปนาตนเองเป็น ลูกศิษย์พระพุทธรูป แต่ประการใดรวมความว่า ของที่ถือว่าเป็นของสงฆ์นั้น คือของในวัดทุกประการที่ เขาถวายเป็นของสงฆ์แล้ว แม้แต่ดอกไม้ ผลไม้ในวัดเศษไม้ที่คิดว่ าทำอะไรไม่ได้แล้ว เอามาทำฟืนบ้าง ทำอย่างอื่นเล็กๆน้อยๆบ้าง จงอย่าคิดว่าไม่มีบาป แม้แต่เศษกระเบื้องที่ทิ้งแล้ว ก็เป็นของสงฆ์ มีผลเสมอกัน เว้นไว้แต่ดอกไม้ผลไม้ที่พระหรื อท่านผู้ใดปลูกในวัด ถ้าท่านเจ้าของยังอยู่ในเขตวั ดนั้นและท่านอนุญาติ อย่างนี้เอามาได้ไม่บาป ด้วยท่านเจ้าของมีสิทธิ์สมบูรณ์ ให้ได้ รับมาได้ไม่มีโทษ ถ้าท่านผู้ปลูกออกไปจากวัดนั้ นหรือตายไปแล้ว ของนั้นเป็นของสงฆ์โดยตรง ไปเอามามีโทษตามกำลังบาป ขโมยของสงฆ์และอีกประการ หนึ่ง วัดร้างที่ไม่มีพระอยู่ แต่มีสภาพเป็นวัด กับที่ของสงฆ์ที่เป็นไร่นาไปแล้ ว
ไม่มีสภาพเป็นวัด ถ้าเราไปนำมานิดเดียวแม้แต่หญ้ าต้นเดียว เขาถือว่า เป็นหนี้สงฆ์ อันนี้อันตรายมาก
สมัยหลวงพ่อปาน ท่านก็แนะนำให้คน ชำระหนี้สงฆ์ บาทสองบาทสลึงสองสลึง
บางคนไม่มีเงืนเอามาทำงานแทน ทำอะไรก็ได้ไม่บังคับ คือ ดายหญ้าก็ตามไม่เอาค่าแรง
ผู้ถาม
หลวงพ่อครับ พระเครื่อง ที่เขาไปขโมยมาแล้วเราเอามาห้ ฉันนี่เดินได้ วิ่งได้ ใช่ไหม.......อย่างนั้นเขาไม่ เรียกพระเครื่อง เขาเรียก พระห้อย
ลักษณะของอาการมันเป็นของชั่ว ถ้าเราเอาของชั่วมาอยู่กับเราก็ ชั่วด้วย อย่างใน มงคลสูตร ข้อหนึ่ง ท่านบอกว่า
"อเสวนา จ พาลานัง" อย่าคบคนพาล ถึงแม้นตัวราจะไม่พาล ถ้าเราเดินกับคนพาลเขาก็คิดว่ าพาลไปด้วย"
และท่านก็มีข้อเปรียบเทียบ ท่านบอกว่า
มันยังติดใบตองอยู่" "ทีนี้การรับของโจร ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ ก็ต้องถือว่าเราร่วมมือด้ วยโดยไม่เจตนา ก็ต้องเอาเหมือนกัน"
ผู้ถาม
ของหนูก็มีพระที่ขโมยมาเหมือนกัเขาไม่ใช้นะ ไปดุว่าที่ร้านเจ๊กหน้าตั กขนาดนี้เขาขายเท่าไร แล้วเอาเงินไป ชำระหนี้สงฆ์ตามราคานั้น
ถ้ามากกว่านั้นไม่เป็นไรนะ เท่านั้นก็ใช้ได้ เอาไปวัดใดวัดหนึ่งขอชำระหนี้ สงฆ์ ขอมอบ เงินจำนวนนี้และขอเอาพระไปบูชา
ก็เท่านี้แหละ เป็นอันว่าไม่มีอะไรผิด (ใคร ก็ตามได้รู้อย่างนี้ก็ใจเสียแล้ ว เวลาไปเอามาไม่รู้เท่าไหร่
ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ก็มีคนหัวดี กล้าถามหลวงพ่อว่า
ถ้าจะชำระหนี้สงฆ์ทั้งหมด ตั้งแต่ที่เคยทำมาตั้งแต่ต้ นจนปัจจุบันนี้ จะทำอย่างไร เราจึงได้รู้เรื่องการสร้ างพระชำระหนี้สงฆ์ขึ้นมา
การสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ขอขอบคุณบทความจาก http://board.palungjit.com/ f23/การชำระหนี้สงฆ์-ทำไมเราต้ องชำระหนี้หนี้สงฆ์-202171.html
:: อีเมลนี้ได้รับฟอร์เวิร์ดมาจาก : Pueng Naja
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น