"พระโพธิธรรม มหาสังฆปรินายก"
สารบัญ
1.ตำนานการถ่ายทอดชี้ธรรม
2.การถ่ายทอดชี้ธรรมในครั้งพุ
3.ลำดับพระสังฆปริ
4. "พระโพธิธรรม" พระสังฆปรินายกองค์ที่ 1 ของจีน
5. การเดินทางอันยิ่งใหญ่
6.รับนิมนต์จากองค์ฮ่องเต้
7.ชี้แนะนกแก้ว
8.ชี้แนะเสินกวงฝ่าซือ
9.ยมฑูตเตือนสติ
10.ตัดแขนบูชาธรรม
11.ฝ่ามารผจญ
12.ทดสอบภูมิธรรม คัดศิษย์สืบทอดภาระกิจ
13.ปัจฉิมโอวาท
14.คืนสู่ทิพยภาวะ
ภายหลังจากที่องค์สมเด็
พระดำริของพระพุทธองค์ด้
"โลกจะฉิบหายในครั้งนี้ๆ..ๆ.."
เสียงนั้น ก็ดังแผ่ไปทั่วหมื่นโลกธาตุ ท้าวสหัมบดีพรหมพร้อมด้วยเหล่
"ข้าแต่พระพุทธเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ สัตว์ในโลกนั้นที่มีกิ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุ
๑. วิธีค่อยเป็นค่อยไป วิธีนี้ผู้ฟังจะค่อยๆได้รั
๒. วิธีชี้ตรงฉับพลัน วิธีนี้เหมาะสมกับบุคคลผู้ที่มี
ดังโศลกธรรมของนิกายฌาน หรือเซน ชึ่งกล่าวถึงการถ่ายทอดวิธีนี้
"การส่งมอบพิเศษนอกคัมภีร์
ไม่ต้องอาศัยตัวอักษร
ชี้ตรงไปยังจิตของมนุษย์
ให้เห็นแจ้งในภาวะเดิมแท้....
โดยอาศัยพระสูตรหนึ่งซึ่
"สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ ณ ภูเขาคิชฌกูฏค่ำนั้น ท้าวมหาพรหมได้เสด็จมาเข้าเฝ้
พระตถาคตจึงทรงยกพระหัตถ์ขวาอั
ในขณะนั้นปวงเทพยดาและมนุษย์ทั้
ครั้นแล้วพระโลกนาถเจ้า จึงตรัสขึ้นในท่ามกลางที่ประชุ
"ตถาคตมีธรรมจักษุอันถูก ตรงนิพพาน
ตถาคตเป็นผู้มีญาณทัศนะอั
ตถาคตเป็นผู้มีดวงจิตอั
ตถาคตเป็นผู้ธำรงสัจจะอั
สิ่งใดอันตถาคตเป็น...
สิ่งนั้น ธรรมนั้น....ตถาคตได้ถ่ายทอด
ให้แก่มมกัสสปะโดยครบถ้
พระมหากัสสปะ ผู้ถึงช่วงเวลาแห่งการตรัสรู้
ด้วยเหตุฉะนี้จึงถือว่า พระมหากัสสปะเถระผู้ซึ่งได้รั
หลังจากที่องค์สมเด็
ประธานคณะสงฆ์ยุคต้นพุทธกาล
พระอริยสงฆ์สาวกผู้ซึ่งได้รั
การถ่ายทอดธรรมดังกล่าวมี
|
จนกระทั่งถึง พระสังฆปรินายกองค์ที่ ๒๘ คือ พระโพธิธรรมผู้ซึ่งปฏิบัติ
ฉะนั้นทางฝ่ายจีน จึงเริ่มนับพระโพธิธรรม เป็นพระสังฆปรินายกองค์ที่ ๑ ของจีน
องค์ที่ ๑ ของจีน
"พระโพธิธรรม" เดิมเป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๓ ของพระเจ้าแผ่นดิน แคว้นคันธารราช ประเทศอินเดีย
ตั้งแต่พระชนอายุยังเยาว์ ทรงปราดเปรื่องและแตกฉานในคัมภี
เมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์ พระองค์สามารถนั่งฌานสมาบัติชั้
พระปรัชญาตาระเถระ ได้หยิบลูกแก้วยกขึ้นให้ท่
พระปรัชญาตาระเถระ เห็นถึงปัญญาบารมีอันสูงล้
"พระโพธิธรรม ได้บรรลุธรรมสมบูรณ์ดีแล้ว ฉันจะมอบบาตร จีวร สังฆาฏิ และถ่ายทอดธรรมทั้งหมดของพระสั
ต่อจากนี้ไป เป็นสิทธิหน้าที่ของท่านที่
ท่านมีบุญญลักษณะ บารมีดีพร้อม และอายุยืนยาวมากกว่าพระสังฆปริ
ท่านจึงควรนำวิถีธรรมขององค์
|
พระโพธิธรรมมหาเถระ ออกเดินทางจากอินเดียโดยลงเรื
กล่าวกันว่าช่วงเวลานั้น แม้ในประเทศจีนจะมีพระพุ
จะกล่าวไปไยกับการมุ่งปฏิ
แท้จริงแล้ว ก่อนหน้าที่พระอาจารย์ตั๊กม๊
ในที่สุดพระภิกษุทั้งสองรู
ท่าน ฮุ่ย เอวียนไต้ซือ ได้ถามศิษย์ของพระอาจารย์ตั๊กม๊
"ท่านทั้งสองเป็นภิกษุอินเดีย นำธรรมะอะไรมาเผยแพร่?แล้
เวลานั้นภิกษุทั้งสอง พูดภาษาจีนได้น้อยมาก ไม่รู้จะ อธิายอย่างไรจึงได้แต่แบมือยื่
"มันเร็วไหม? "
ท่านฮุ่ย เอวียน ไต้ซือ ก็ตอบว่า
"ใช่...เร็วมาก"
ศิษย์ของอาจารย์ตั๊กม๊อ จึงกล่าวว่า
"โพธิ และ ทุกข์ ก็เร็วเช่นนี้แหละ"
เมื่อนั้น ท่าน ฮุ่ย เอวียน ไต้ซือ ก็บังเกิดความสว่างจิตรู้แจ้
"ทุกข์ คือ สุข...สุข คือ ทุกข์
ไม่แตกต่าง..ทั้งสองอย่
อยู่ข้างไหน...ก็ขึ้นอยู่
หลังจากที่ท่าน ฮุ่ย เอวียน ไต้ชือ รู้แจ้งในธรรมแล้ว จึงกล่าวนิมนต์ให้พระภิกษุอิ
ต่อมาเมื่อพระอาจารย์ตั๊
"บัดนี้เวลาแห่งการปฏิบัติ
พระโพธิธรรม พระสังฆปรินายกองค์ที่ ๒๘ ผู้รับสืบทอดวิถีธรรมตรง จึงลงเรือออกเดินทางโดยมิได้ย่
ด้วยรูปลักษณ์ของพระองค์ท่
ภาพศิลาจารึก พระสังฆปริณายกองค์ที่ ๑.
พระโพธิธรรม มหาครูบา. ภาษาจีนที่เห็นนั้น แต้จิ๋วอ่านว่า "ตงโท้วชอโจ้ว ผู่ที้ตกม้อใต้ซือ" ปฐมาจารย์องค์แรกจากอินเดี
กระทั่ง ณ วันที่ ๒๑ ค่ำเดือนเก้า สมัยราชวงศ์เหลียงบู๊ตี้
ขณะนั้น พระเจ้าเหลียงบู้ตี๊ พระองค์ทรงเลื่อมใสศรัทธาพุ
ในปีนั้นเองพระอาจารย์ตั๊
พระเจ้าเหลียงบู๊ตี้ ได้ตรัสถามพระอาจารย์ตั๊กม๊อว่า
"ตั้งแต่ข้าพเจ้าครองราชย์มา ได้สร้างวัดวาอาราม โบสถ์วิหาร และพระคัมภีร์มากมาย อีกทั้งอนุญาตให้ผู้คนได้บวช โปรยทาน ถวายภัตตาหารเจแด่พระภิกษุสงฆ์ ตลอดจนทะนุบำรุงพระศาสนามากมาย ไม่ทราบว่าจะได้รับกุศลมากน้
พระอาจารย์ตั๊กม๊อ ตอบว่า
"ที่มหาบพิตรบำเพ็ญมาทั้งหมด เป็นเพียงบุญกิริยาทางโลกเท่านั
การที่ท่านตอบเช่นนั้น ก็เพราะพระเจ้าเหลียงบู๊ตี้มี
แท้ที่จริง การให้ทานเงินทอง วัตถุสิ่งของ อาหาร หรือสร้างวัดวาอาราม ฯลฯ เรียกว่า "บุญ" หมายถึง ส่งที่ทำให้ฟูใจทำให้ใจมีปิติอิ
เวลานั้นพระเจ้าเหลี่ยงบู๊
"อริยสัจ คืออะไร? "
พระอาจารย์ตั๊กม๊อ ตอบว่า "ไม่มี"
พระเจ้าเหลียงบู๊ตี้ ทรงตรัสถามอีกว่า
"เบื้องหน้าข้าพเจ้านี้ คือใคร?"
พระอาจารย์ตั๊กม๊อ ตอบว่า "ไม่รู้จัก"
พระเจ้าเหลียงบู๊ตี้ ทรงได้ยินคำตอบเช่นนั้น ไม่ค่อยพอพระทัย
พระอาจารย์ตั๊กม๊อ เห็นว่า พระเจ้าเหลียงบู๊ตี้ทรงสั่งสมภู
เมื่อท่านเดินทางพ้นจากเมื
"พระภิกษุอินเดียรูปนั้น ขณะนี้พำนักอยู่ที่ใด? "
พระเจ้าเหลียงบู๊ตี้ ทรงตรัสว่า
"จากไปแล้ว.....ท่านเป็นใครหรื
พระธรรมจารย์ ปอจี่เซียงซือ กราบทูลว่า
"ท่านคือ พระกวนอิมมหาโพธิสัตว์อวตารมาที
พระเจ้าเหลียงบู๊ตี้ ทรงทราบเช่นนั้นจึงมีพระดำริ จะให้ทหารออกติดตามไปอาราธนาท่
"ไร้ประโยชน์...ถึงจะยกทั
เมื่อพระอาจารย์ตั๊กม๊อเดิ
พอเห็นพระอาจารย์ตั๊กม๊
"ท่านผู้เจริญ!....ท่านผู้
ฝ่ายพระอาจารย์ตั๊กม๊อ เมื่อได้ยินคำวิงวอนจากนกแก้ว ก็ให้คิดคำนึงในใจว่า
"นับตั้งแต่มาถึงแผ่นดินจีน..
ครั้นแล้ว พระอาจารย์ตั๊กม๊อ จึงโปรดชี้แนะเจ้านกแก้วไปว่า
"สองขาเหยียดตรง สองตาปิดสนิท เท่านี้แหละ....เจ้าก็
เจ้านกแก้วฟังแล้วก็เข้
ดังนั้นพอนกแก้วเห็
ครั้นเจ้าของมองดูในกรง เห็นนกแก้วแสนรักของตนนอนแน่นิ่
หันมามองดูมนุษย์ในโลกกั
แท้จริงมันเป็นอิ
ไม่ใช่ทุกคนที่อยากเกิด แต่ก็ต้องเกิด
และไม่ใช่ว่าทุกคนอยากตาย แต่ก็ต้องตาย
ใครบ้างเลือกได้ หรือ เลี่ยงได้
มีเพียงผู้ที่อิสระแท้จริ
คือ การ "ตาย" เสียก่อน "ตาย"
ผู้ที่สามารถ ตายจาก รัก โลภ โกรธ หลง
ตายจาก ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
ชิวตในโลกของเขาผู้นั้นไม่
ย้อนกล่าวถึง พระอาจารย์ตั๊กม๊อ ได้เดินทางมาถึงวัดใหญ่แห่งหนึ่
วันนั้นขณะพระอาจารย์ตั๊
ฝ่ายท่านเสินกวง ผู้ซึ่งกำลังแสดงธรรมอยู่
ครั้นการเทศนาธรรมจบลง ผู้คนเริ่มทะยอยกันกลับ พระอาจารย์ตั๊กม๊อจึงถื
พระอาจารย์ตั๊กม๊อ "ท่านอยู่ที่นี่ทำอะไร? "
ท่านเสินกวง "อ้าว!...ข้าก็เทศน์ธรรมอยู่ที่
พระอาจารย์ตั๊กม๊อ "ท่านเทศน์ธรรมเพื่ออะไร?"
ท่านเสินกวง "เทศน์เพื่อให้ผู้คนหลุดพ้น!"
พระอาจารย์ตั๊กม๊อ "จะช่วยคนให้พ้น เกิดตายได้อย่างไร...ในเมื่
ตัวหนังสือบนคัมภีร์
ตัวหนังสือดำ ก็เป็นสีดำ
กระดาษขาว ก็เป็นสีขาว
เทศน์ไปเทศน์มา ก็คือเทศน์ตามตัวหนังสือดำๆ บนกระดาษขาวๆ
เมื่อถูกจู่โจมด้
พระอาจารย์ตั๊กม๊อ เห็นท่านเสินกวงไม่อาจตอบก็พู
"นี่แหละน๊า...แผ่นดินจีนในยุ
มีธรรมะ ก็เหมือนไม่มี
หากจะว่าไม่มี ก็มีคนพูดธรรมะกันทั้งเมือง"
ถึงตอนนี้ ท่านเสินกวงสุดจะกั
"นี่แน่ะ!....แกกล้าดีอย่างไร ถึงมาเป็นตัวบ่อนทำลายศาสนาที่
จะว่าไปแล้ว พระอาจารย์ตั๊กม๊อ ท่านก็เป็นผู้ล้ำเลิศในเชิงวิ
ตามตำนานโบราณได้กล่าวว่า หากแม้นองค์พระอรหันต์เจ้าผู้
พระอาจารย์ตั๊กม๊อผู้เปี่
"หากแผ่นดินนี้ต้องแล้งฝน ขาดน้ำถึง ๓ ปี ชาวบ้านผู้คนเด็กเล็ก ตลอดจนสัตว์ใหญ่น้อยมากมาย จะต้องล้มตายกันนับไม่ถ้วนอันตั
ท่านดำริใคร่ครวญเช่นนี้
ท่านเสินกวงเจ้าอาวาส เมื่อได้
แต่หลังจากเหตุการณ์นั้
"วันนี้...ถึงเวลาแล้วที่ท่านต้
ไม่อาจอยู่บนโลกมนุษย์อี
ท่านพญายมผู้เป็นใหญ่ ให้ข้าทั้งสองมานำตัวท่
ท่านเจ้าอาวาสได้ยินเช่นนั
"อาตมาได้บวชเรียนศึ
ยมฑูตตนหนึ่งได้ตอบเจ้
"ในโลกมนุษย์ยังมีผู้หลุดพ้นแล้
ท่านเสินกวงได้ยินเช่นนั้น ก็ทั้งตกใจและเสียใจ จึงวิงวอนว่า
"ขอท่านยมฑูตทั้งสองโปรดให้
ยมฑูตทั้งสอง ก็ยินยอมผ่อนผันตามคำร้องขอ พอท่านเสินกวงสะดุ้งตื่นขึ้น ก็รีบออกติดตามหาพระอาจารย์ตั๊
ขณะนั้นพระอาจารย์ตั๊กม๊
"พระโพธิธรรมข้ามแม่น้ำด้วยหญ้
ฝ่ายท่านเสินกวง ได้แต่ทรุดตัวกราบลงที่ริมฝั่