พระสยามเทวาธิราช
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
พระสยามเทวาธิราช เป็นเทวรูป หล่อด้วยทองคำสูง ๘ นิ้ว ประทับยืนทรงเครื่องกษัตริยาธิพระวิมานไม้แกะสลักปิดทองนี้ เรียกว่า พระวิมานไม้แกะสลักปิดทองสามมุข ด้านหน้าขององค์พระสยามเทวาธิ
[แก้] ประวัติ
หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล ทรงพระนิพนธ์ไว้ว่า
"...ตอนมหาอำนาจทางตะวั
ถึงรัชกาลที่ ๓ อังกฤษเกิดรบกันขึ้นกับพม่าเป็
‘..พระเจ้าแผ่นดินกำลังเสด็จอยู
ตามรายงานนี้เห็นได้ชัดว่า เขาเตรียมจะใช้กำลังกับเราอยู่
..เมื่อเหตุการณ์เรียบร้อยแล้ว ทรงพระราชดำริว่า เมืองไทยเรานี้มีเหตุการณ์หวิด ๆ จะต้องเสียอิสรภาพมาหลายต่
..อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ต่าง ๆ ดังเราท่านได้ประสบมาด้วยตนเอง ยิ่งนานวันก็ยิ่งเห็นว่
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู
พระบรมรูปพระบาทสมเด็ จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ าเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดฯ ให้สร้างขึ้นเลี ยนแบบพระสยามเทวาธิราชแต่ แปลงเค้าพระพักตร์ให้เหมื อนสมเด็จ พระชนกาธิราช เพื่อทรงสักการะ พระบรมรูปองค์นี้ปัจจุบันประดิ ษฐานอยู่ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
พระราชพิธีบวงสรวงใหญ่
ระหว่างวันที่ ๗ - ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๕ เมื่อครั้งฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญพระสยามเทวาธิ
From: MaiY
Sent: Friday, 06 May, 2011 7:35 PM
พระสยามเทวาธิราช
คมชัดลึก : คนไทยเราเชื่อกันมาแต่โบร่ ำโบราณแล้วว่ามีเทวดาผู้ปกปักรั กษาบ้านเมืองในสมัยกรุงสุโขทั ยมีพระขพุงผีเป็นสิ่งศักดิ์สิ ทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เชื่อกันว่า “ถ้าไหว้ดีพลีถูก บ้านเมืองก็เจริญรุ่งเรือง แต่ถ้าไหว้ดีพลีไม่ถูก บ้านเมืองก็ล่มจม” พระขพุงผีนี้เข้าใจกันว่าน่ าจะเป็นเทวรูปศิลาของเทวนารีซึ่ งปัจจุบันเรียกว่า แม่ย่า ซึ่งสันนิษฐานว่าพ่อขุ นรามคำแหงให้สร้างขึ้นเพื่อรำลึ กถึงพระมารดาคือ นางเสือง
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาและต่อมาถึ งรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีความเชื่อว่าเทวดาที่คุ้ มครองบ้านเมืองคือ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง และ พระหลักเมือง สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ ทรงให้ความหมายของพระเสื้อเมื องว่า มีมัลลิตารีเพาเวอร์ คืออำนาจทางทหาร พระทรงเมืองเป็นซีวิลเพาเวอร์ คืออำนาจของข้าราชการพลเรือน ส่วนพระหลักเมืองเป็นจูดิคั ลเพาเวอร์ คืออำนาจตุลาการ ซึ่งสื่อความหมายว่าบ้านเมื องจะร่มเย็นได้ ก็ต้องประกอบด้วยความเข้มแข็ งทางทหาร การปกครองที่ดีงาม และกระบวนการด้านความยุติธรรมอั นถูกต้องเที่ยงตรง อย่างไรก็ตามในส่วนของชาวบ้ านโดยทั่วไปยังให้ ความเคารพยำเกรงต่อพระแก้ วและพระกาฬ จนมีคำสาบานที่อ้างพระแก้ วพระกาฬอย่างติดปาก พระแก้วก็คือพระแก้วมรกตซึ่งถื อได้ว่าเป็นของคู่บ้านคู่เมื องโดยแท้ เพราะชื่อของเมืองคือรัตนโกสิ นทร์ก็หมายถึงที่ประดิ ษฐานพระแก้วมรกตนั่นเอง ส่วนพระกาฬ หรือพระกาฬไชยศรีเป็นบริ วารพระยม มีหน้าที่นำดวงวิญญาณมนุษย์ ไปยมโลก
ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู ่หัว พระองค์มีพระราชดำริว่า ประเทศไทยมีเหตุการณ์ที่เกื อบจะต้องเสียอิสรภาพมาหลายครั้ง แต่บังเอิญมีเหตุให้รอดพ้นภยั นตรายมาได้เสมอ ชะรอยคงจะมีเทพยดาที่ศักดิ์สิ ทธิ์คอยอภิบาลรักษาอยู่ สมควรที่จะทำรูปเทพยดาองค์นั้ นขึ้นสักการบูชา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าประดิษฐวรการปั้ นรูปสมมติขึ้น แล้วหล่อด้วยทองคำแท่ง มีลักษณะแบบเทวรูป มีความสูง 8 นิ้ว ทรงเครื่องอย่างเทพารักษ์ ทรงมงกุฎ ประทับยืน พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นในท่าจี บเสมอพระอุระ ประทับในเรือนแก้วทำด้วยไม้จั นทน์ มีลักษณะแบบวิมานเก๋งจีน และถวายพระนามว่า พระสยามเทวาธิราช โปรดเกล้าฯ ให้ประดิษฐานไว้ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง
พระบาทสมเด็จพระจอมกล้าเจ้าอยู่ หัว ทรงเคารพบูชาพระสยามเทวาธิราชเป ็นอย่างสูง ทรงถวายเครื่องสักการะเป็ นประจำทุกวัน และทรงถวายเครื่องสังเวยทุกวั นอังคารและวันเสาร์ก่อนเวลาเพล กับโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิธีสังเวยเทวดาในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 อันตรงกับวันขึ้นปีใหม่ ทางจันทรคติแบบโบราณด้วย ทั้งเป็นที่ร่ำลือกันว่าพระสยาม เทวาธิราชนั้นศักดิ์สิทธิ์ยิ่ งนัก
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้ าอยู่หัว ก็ทรงเคารพนับถือพระสยามเทวาธิ ราช เช่นเดียวกับพระราชบิดา นอกจากจะโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็ จพระจอมเกล้าฯ ในเครื่องทรงแบบพระสยามเทวาธิ ราชขึ้นองค์หนึ่งประดิษฐาน ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุ สิต เพื่อทรงสักการะแล้ว ยังโปรดเกล้าฯ ให้นำรูปพระสยามเทวาธิราชประทั บนั่งใส่ในด้านหลังของเหรี ยญกษาปณ์ ราคาเสี้ยว อัฐ และโสฬส ซึ่งออกใช้ในรัชสมัยของพระองค์ ด้วย
ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ หรือพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ เสด็จแทนพระองค์ไปทรงถวายเครื่ องสังเวยพระสยามเทวาธิราช ในวัน ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 และระหว่างงานฉลองกรุงเทพฯ 200 ปี ในปี พ.ศ.2525 ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระสยามเทวาธิราชออกม าให้ประชาชาชนทั่วไปได้สักการบู ชาเป็นครั้งแรก
หม่อมเจ้าหญิงพูนพิสมัย ดิสกุล ได้ทรงบันทึกเรื่องพระสยามเทวาธ ิราช มีความตอนหนึ่งว่า “...เหตุการณ์ต่างๆ ดังเราได้ประสบมาด้วยตนเอง ยิ่งนานวันก็ยิ่งเห็นๆ ว่าพระสยามเทวาธิราชนั้นมีจริง เราจงพร้อมใจกันอธิษฐาน ด้วยกุศลผลบุญที่เราทำมาแล้วด้ วยดี ขอให้เทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ พระองค์นี้ จงได้ทรงคุ้มครองป้องกันภัย และโปรดประสิทธิ์ประสาทความสมบู รณ์พูนสุข ให้แก่ประชาชนชาวสยามทั่วกั นเทอญ...
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาและต่อมาถึ
ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู
พระบาทสมเด็จพระจอมกล้าเจ้าอยู่
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้
ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ หรือพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ เสด็จแทนพระองค์ไปทรงถวายเครื่
หม่อมเจ้าหญิงพูนพิสมัย ดิสกุล ได้ทรงบันทึกเรื่องพระสยามเทวาธ
คาถาบูชาพระสยามเทวาธิราช สยามะเทวาธิราชา เทวาติเทวา มหิทธิกา เทยยรัฏฐัง อนุรักขันตุ อาโรคะเยเนะ สุเขนะ จะ เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สุวัตถิ โหตุ สัพพะทา สยามะเทวานุภาเวนะ สยามะเทวะเตชะสา ทุกขะโรคะภะยา เวรา โสกา สัตตุ จุปัททะวา อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง โสตถิภาคะยัง สุขัง พะลัง สิริ อายุ จะ วัณโณ จะ โภคัง วุฑฒี จะ ยะสะวา สะตะวัสสา จะ อายุ จะ ชีวะสิทธี ภะวันตุ เม คาถาบูชาพระสยามเทวาธิราช คำแปล คาถาบูชาพระสยามเทวาธิราช พระสยามเทวาธิราช เป็นจอมเทวดา ยิ่งใญ่กว่าเทวดาทั้งหลาย ทรงมี มหิทธิฤทธิ์ ขอจงอภิบาลรักษาประเทศไทยโดยให้ ขอให้ประเทศไทยมีความร่มเย็นเป็ ด้วยอำนาจสัจจะวาจาที่อ้างถึ ขอจงประทานความสุขสวัสดี จงบังเกิดแก่ประเทศไทยด้ ด้วยอานุภาพพระสยามเทวาธิ ขอจงขจัดทุกข์ โรคภัย ความโศก ศัตรู อุปัทวะ และอันตรายมิใช่น้อย ให้พินาศไปโดยไม่เหลือ ขอชัยชนะความสำเร็จแห่งกิจการ ทรัพย์ ลาภ ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข กำลัง ศรี อายุ วรรณะ โภคสมบัติ ความเจริญ และยศ มีอายุยืนตลอดหนึ่งร้อยปีขึ้นไป ความสำเร็จแห่งกิจก่ คาถาบูชาพระสยามเทวาธิราช ผู้ที่สวดบูชาพระสยามเทวาธิราช เป็นประจำจะเป็นสิริมงคล แก่ตนเองและครอบครัว มีความร่มเย็นเป็นสุขเจริญในหน้ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น