การตรวจปัสสาวะ
เมื่อ มีอาการที่สงสัยว่าจะเป็
การตรวจปัสสาวะเป็นการทดสอบที่
ระบบ ขับถ่ายปัสสาวะ ประกอบด้วยไต ซึ่งมี 2 อัน ซ้ายและขวา ทำหน้าที่กรองของเสียออกจากเลื
ปัสสาวะเกิ
การตรวจปัสสาวะเพื่อวินิจฉั
การตรวจทางกายภาพ
การตรวจคุณสมบัติทางกายภาพ ได้แก่ ตรวจหาปริมาตร สี กลิ่น ความขุ่น และความถ่วงจำเพาะ
- สี
ปัสสาวะ ปกติมีสีเหลืองอำพัน แต่จะมีความอ่อน–แก่ของสีแตกต่างกันได้ตามความเข้มข้นของปั สสาวะ หากปัสสาวะที่ถ่ายออกมามีสีอื่น เช่น แดง น้ำตาล ฯลฯ อาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่ อาหาร ยา สารสีต่าง ๆ หรือผลิตผลจากระบบเผาผลาญของร่ างกาย การดูสีปัสสาวะจึงเป็นเครื่องบ่ งชี้ข้อแรกสำหรับโรคไต และภาวะผิดปกติ ของระบบเผาผลาญอาหาร
- ความขุ่น
ปัสสาวะ ที่ถ่ายใหม่ ๆ ปกติแล้วมักจะใส อาจขุ่นได้เมื่อตั้งทิ้งไว้หรือเก็บในตู้เย็น การรายงานความขุ่นนิยมรายงานเป็ นใส ขุ่นเล็กน้อย หรือขุ่น ตั้งแต่น้อย (1+) ไปถึงขุ่นมาก (4+) ความขุ่นของปัสสาวะที่เกิ ดจากความผิดปกติ อาจเกิดจากเม็ดเลือดขาว แบคทีเรีย ไขมัน เป็นจำนวนมากได้
- ความถ่วงจำเพาะ
ค่า ปกติ 1.005 – 1.030 ความถ่วงจำเพาะเป็นการวัดความสามารถของไตในการควบคุ มความเข้มข้นและส่วน ประกอบของของเหลวในร่างกายให้ คงที่ อาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กั บปริมาณน้ำที่ดื่มเข้าไป อุณหภูมิและการออกกำลังกาย ความถ่วงจำเพาะที่สูงเกินไป อาจจะเกิดจากร่างกายขาดน้ำ เช่นดื่มน้ำน้อย ท้องร่วงรุนแรง หรือในเด็กเป็นไข้เลือดออกที่ กำลังช็อค และได้น้ำชดเชยน้อยเกินไปทำให้ ขาดน้ำในกระแสเลือด จะทำให้ปัสสาวะเข้มข้น ถ้าความถ่วงจำเพาะต่ำไป อาจจะเกิดจาก กินน้ำมากเกิน ร่างกายจึงกำจัดน้ำออกมาทางปั สสาวะเยอะ หรือเป็นโรคที่ทำให้มีปัสสาวะมี น้ำออกมามากผิดปกติ เช่น โรคเบาจืด
การตรวจทางเคมี
การตรวจคุณสมบัติทางเคมีเป็
- ความเป็นกรดด่าง
ค่า ปกติ 5 - 8 ความเป็นกรดด่าง บ่งบอกความสามารถของไตในการควบคุ มสมดุลกรดด่างของร่างกาย เปลี่ ยนแปลงไปตามกระบวนการเผาผลาญอาห าร ชนิดของอาหาร โรคและการใช้ยา
- โปรตีนในปัสสาวะ
ค่า ปกติ ไม่มีหรือมีเล็กน้อย อาจพบโปรตีนมากในบุคคลที่มีไข้สูง โรคหัวใจวาย โรคที่มีพยาธิสภาพภายในไต ไตอักเสบเรื้อรังและเฉียบพลัน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ท่อปัสสาวะอักเสบ ในบุคคลที่ทำงานในสถานประกอบกิ จการที่สัมผัสสารโลหะหนักบางชนิ ด เช่น ปรอท แคดเมียม มีฤทธิ์ในการทำลายเนื้อไต มีผลทำให้โปรตีนออกมาในปั สสาวะจำนวนมาก ในคนปกติอาจพบว่ามีโปรตี นออกมาในปัสสาวะได้จากการนั่ งหรือยืนนาน ๆ การออกกำลังกายหักโหม การตั้งครรภ์ระยะท้าย ๆ เครียด หรือมีไข้ เป็นต้น การรายงานผลจะรายงานเป็น Trace, 1+ , 2+ , 3+ และ 4+ หมายถึง พบโปรตีนในปริมาณน้อย ๆ ไปจนถึงปริมาณมากตามลำดับ
- น้ำตาลในปัสสาวะ
หยด ใส่ปัสสาวะหรือวิธีใช้กระดาษทดสอบเปรียบเทียบการเปลี่ ยนแปลงของสี จะพบเป็นผลลบ (สีน้ำเงินหรือเขียว) การตรวจพบว่ามีน้ำตาลกลู โคสออกมาในปัสสาวะอาจมีสาเหตุ มาจากโรคไต การตั้งครรภ์ ได้รับสารพิษหรือมีระดับน้ ำตาลในเลือดสูง การรายงานผลเช่นเดียวกั บการรายงานโปรตีนในปัสสาวะ คือ Trace , 1+ , 2+ , 3+ และ 4+ ตามลำดับ
การตรวจตะกอนปัสสาวะทางกล้องจุ
- เพื่อช่วยบ่งชี้ให้แน่ชัดถึ
งภาวะที่ผิดปกติหรือโรคที่สงสัย ในบางครั้ งการตรวจทางกายภาพและเคมีอาจไม่ พบสิ่งผิดปกติ แต่เมื่อตรวจตะกอนก็อาจจะพบสิ่ งผิดปกติได้ ซึ่งสามารถช่วยแพทย์ในการวินิ จฉัยโรคได้เป็นอย่างดี สิ่งที่สามารถพบได้ในตะกอนปั สสาวะ เช่น เซลล์ต่าง ๆ เม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง แบคทีเรีย เชื้อรา พยาธิ ผลึกต่าง ๆ แท่งโปรตีน เป็นต้น - การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ เป็นวิธีที่สำคัญมากในการวินิ
จฉัยโรค โดยการนำตะกอนปัสสาวะ มาตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อหาดูเซลล์ต่างๆ เช่น เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เซลล์เยื่อบุ และตรวจหาคาสท์ ซึ่งมีความสำคัญในการวินิจฉั ยโรคไต การตรวจหาผลึกต่างๆ เช่น แคลเซียมออกซาเลต ยูริคแอซิด เป็นต้น การตรวจปัสสาวะด้วยกล้องจุ ลทรรศน์นั้นสามารถช่วยในการวินิ จฉัยโรคเช่น การพบเม็ดเลือดแดง และคาสท์ออกมาย่อมชี้บ่งว่าน่ าจะเป็นโรคไตเฉียบพลัน และยังมีประโยชน์ในการติ ดตามการรักษาโรคว่าดีขึ้นหรื อเลวลง เช่น ก่อนรักษาพบคาสท์ 5-10 คาสท์ต่อฟิลด์กล้อง แต่พอรักษาแล้วเหลือ 0-1 คาสท์ต่อฟิลด์กล้อง ย่อมแสดงว่าอาการดีขึ้น เป็นต้น - ในคนปกติ ไม่ควรมีเม็ดเลือดขาวในปั
สสาวะเลย ถ้ามีเม็ดเลือดขาวออกมามากในปั สสาวะ แสดงว่ามีการอักเสบติดเชื้ อในทางเดินปัสสาวะ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือกรวยไตอักเสบ ปกติจะรายงานเป็นจำนวนเซลที่ พบต่อพื้นที่ที่มองเห็นด้วยหั วกล้อง ขนาด X40 หรือ High Dry Field (HDF) ถ้าพวกที่พบเล็กน้อย เช่น 1-2 cell/ HDF อาจจะไม่สำคัญเท่าไรนัก แต่ถ้าพวกมีการติดเชื้ ออาจจะพบหลายสิบตัวหรือเป็นร้ อยๆ ซึ่งจะรายงานว่ามีจำนวนมาก - เม็ดเลือดแดงก็เช่นเดียวกับเม็
ดเลือดขาว คนปกติไม่ควรพบเม็ดเลือดแดงในปั สสาวะ ถ้าพบแสดงว่ามีเลือดออกในทางเดิ นปัสสาวะ อาจจะจากอุบัติเหตุ ในกรณีที่ามีประวัติบ่งชี้ว่ าได้รับการกระแทกที่ทางเดินปั สสาวะ หรือมีเนื้องอกในทางเดินปัสสาวะ หรือมีนิ่วในทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อบางครั้งก็ทำให้มี เม็ดเลือดแดงออกมา ในปัสสาวะได้แต่มักจะมีเม็ดเลื อดขาวมากกว่า สาเหตุที่พบบ่อยสุดที่ทำให้ พบเม็ดเลือดแดงจำนวนมากในปั สสาวะคือนิ่ว - อาจพบเซลเยื่อบุทางเดินปั
สสาวะในส่วนต่างๆ เมื่อมีการอักเสบหรือความผิ ดปกติของทางเดินปัสสาวะ - อาจพบผลึกของสารต่างๆ ที่ปนมากับปัสสาวะเช่น Calcium Oxalate หรือ Urate Crystal ซึ่งพวกนี้อาจจะตกตะกอนเป็นนิ่
วต่อไปได้
โอโห้ เห็นทีแรกนึกว่าแก้วเบียร์ อิอิ
ตอบลบคุณครูเป็นครูที่ดีนะครับ เอาใจใส่นักเรียนแบบนี้
รับรองสารเสพติดไม่เข้าทำร้ายเด็กได้แน่นอน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ครอบครัวและสังคมอื่นๆก็ต้องช่วยกันอีกแล้วด้วยนะครับ
ด้วยความคิดเห็นจาก
ชุดตรวจสารเสพติด