คู่มือเลี้ยงแม่
จากคอลัมน์ แกว่งเท้าหาเสี้ยน โดย พิง ลำพระเพลิง มติชน 10 มิถุนายน 2544
แม่ เป็นภาระให้แก่ลูกทุกคนมาตั้ งแต่เกิด นั่นเป็นความจริงที่เราไม่ อาจปฏิเสธได้
ก็ลองคิดดูสิ ตั้งแต่เราเกิดมา ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันเลย
อยู่ดีๆ ผู้หญิงคนนี้ก็มาโอบอุ้ม ถูกเนื้อต้องตัวเรา
มิวายที่เราจะแหกปากร้องไห้ขั บไล่ไสส่งยายผู้หญิงคนนี้ ขนาดไหน
เธอก็ยังพยายามปลอบโยน เห่กล่อมเราอยู่นั่นแหละ
เป็นภาระให้เราต้องจำใจเงียบ ยอมนอนดูดนมเธออยู่จั่บๆๆ
เธอก็ยังพยายามปลอบโยน เห่กล่อมเราอยู่นั่นแหละ
เป็นภาระให้เราต้องจำใจเงียบ ยอมนอนดูดนมเธออยู่จั่บๆๆ
พอเราเริ่มเตาะแตะ ตั้งไข่จะเดินไปไหนต่อไหนมั่ง คุณเธอก็ยังคอยเรียกหาเราอยู่นั ่นแหละ
'มานี่มาลูก มานี่มา อีกนิดเดียวลูก อีกนิดเดียว อีกก้าวเดียว' ไม่รู้จะเรียกทำไมนักหนา ไอ้เราก็เดินล้มลุกคลุกคลานอยู่ เห็นมั้ย
เป็นภาระที่เราต้องเดินไปให้ เธอกอดอีก
เป็นภาระที่เราต้องเดินไปให้
โตขึ้นมาอีกนิด เราเริ่มกินอาหารได้ หล่อนก็เอาอะไรนักหนาไม่รู้ เละๆ เทะๆ มาบดให้เรากิน ไอ้เราจะไม่กินก็ไม่ได้เดี๋ ยวแม่จะน้อยใจ ก็เอาวะ เอาซะหน่อยเคี้ยวไปเเจ่บๆ อย่างนั้นแหละ แม่คุณก็ ยิ้มปลื้ม คงนึกว่าเราอร่อยตายล่ะมั้งนั่ นน่ะ กล้วยบดนะจ๊ะเธอจ๋าในปากฉั นตอนนี้น่ะ ถ้าคิดว่ามันอร่อยขนาดนั้น ทำไมไม่ลองทานเองดูมั่งล่ะ
ทีนี้พอเราเริ่มพูดจารู้เรื่ องขึ้นมาหน่อย คราวนี้ยังไงล่ะ
ผู้หญิงคนนี้กลับขับไล่ไสส่งให้ เราไปโรงเรียนซะอีก ไม่ไปก็ไม่ได้ด้วยนะ บางทีมีตีเราเข้าให้อีก ภาษาอะไรนักก็ไม่รู้ เอามาให้เราหัดอ่านหัดเรียนใช่ มั้ย
ผู้หญิงคนนี้กลับขับไล่ไสส่งให้
ลองคิดดูนะ สัปดาห์หนึ่งต้องไปโรงเรียนตั้ งห้าวันน่ะ
มันภาระหนักหนาแก่เราแค่ไหน แต่พอถึงเวลาเราจะดูทีวี ดูหนังการ์ตูน
นอนดึกขึ้นมาสักหน่อย ลองนึกย้อนไปสิ ใครกันเคี่ยวเข็ญให้ เราไปนอนด้วย ตัวเองง่วงจะนอนคนเดียวก็ไม่ได้ นะต้องบังคับให้เราไปนอนเป็นเพื ่อนด้วย ใช่มั้ย
มันภาระหนักหนาแก่เราแค่ไหน แต่พอถึงเวลาเราจะดูทีวี ดูหนังการ์ตูน
นอนดึกขึ้นมาสักหน่อย ลองนึกย้อนไปสิ ใครกันเคี่ยวเข็ญให้ เราไปนอนด้วย ตัวเองง่วงจะนอนคนเดียวก็ไม่ได้
ที่พูดนี่ไม่ใช่ลำเลิกหรอกนะ เพียงแค่อยากให้เห็นใจกันบ้ างเท่านั้น
วันเวลาผ่านไป เราโตขึ้น แต่แม่ก็ยังไม่ยอมโตตามเราสักที
ลูกอยากจะทำผมทำเผ้า แต่งเนื้อเเต่งตัวให้มันดูอิ นเทรนด์ ดูทันสมัย
ใครกันเป็นตัวสกัดดาวรุ่ง พูดแล้วขนลุก
ผู้หญิงคนนี้มีพัฒนาการไม่คื บหน้าไปไหนเลย ว่ามั้ย
ลูกอยากจะทำผมทำเผ้า แต่งเนื้อเเต่งตัวให้มันดูอิ
ใครกันเป็นตัวสกัดดาวรุ่ง พูดแล้วขนลุก
ผู้หญิงคนนี้มีพัฒนาการไม่คื บหน้าไปไหนเลย ว่ามั้ย
พอเราสำเร็จจบการศึกษาเเล้วเป็ นยังไง... เธอ ร้องไห้ครับ
เชื่อเถอะว่าเธอต้องร้องไห้ ถ้าเราไม่เห็นก็แปลว่าเธอต้อ งแอบร้องไห้ มีอย่างที่ไหนเราคร่ำเคร่ง ร่ำเรียนมาแทบตาย แล้วตัวเองแท้ๆ ที่เป็นคนเริ่มเรื่อง พอเราเรียบจบแทนที่จะดีใจดั นมาร้องไห้ มีอย่างที่ไหน
เชื่อเถอะว่าเธอต้องร้องไห้ ถ้าเราไม่เห็นก็แปลว่าเธอต้อ งแอบร้องไห้ มีอย่างที่ไหนเราคร่ำเคร่ง ร่ำเรียนมาแทบตาย แล้วตัวเองแท้ๆ ที่เป็นคนเริ่มเรื่อง พอเราเรียบจบแทนที่จะดีใจดั
ดีนะ ว่าเราเข้าใจ คู่มือการเลี้ยงแม่ ก็เลยทำใจได้ ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้ขอไปฉลองการสำเร็จการศึ กษากับพวกเพื่อนๆ ที่นอกบ้านก่อน
ก็แหมเรียนจบทั้งที จะมาให้นั่งดูผู้หญิงแก่ๆ นั่งร้องไห้ทำไมล่ะ ใช่มั้ย
ก็แหมเรียนจบทั้งที จะมาให้นั่งดูผู้หญิงแก่ๆ นั่งร้องไห้ทำไมล่ะ ใช่มั้ย
เป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้วนี่ คราวนี้ใครๆ ก็ต้องอยากมีแฟน
คนโน้นก็ไม่ดี คนนี้ก็เรื่องมาก ผมยาวไปมั่งล่ะ
ดูไม่มีความรับผิดชอบมั่งล่ะ... แม่ แม่จะไปรู้อะไร แม่เคยคบกับเขาเหรอ
คนโน้นก็ไม่ดี คนนี้ก็เรื่องมาก ผมยาวไปมั่งล่ะ
ดูไม่มีความรับผิดชอบมั่งล่ะ...
ไม่ใช่แค่เรื่องคู่ครองเท่านั้ นนะแม่เขายังอยากรู้ไปจนถึงเรื่ องอาชีพ
การงานด้วย ว่าเราจะไปทำอะไร อยากเป็นอะไร
การงานด้วย ว่าเราจะไปทำอะไร อยากเป็นอะไร
แม่ครับ แม่ไม่รู้สักเรื่องจะได้มั้ ยพวกเราจะเป็นอะไรมันก็เรื่ องของพวกเรา อนาคตของเรา ขอให้เราได้ตัดสินมันเอง แต่เรารับรองกับแม่ได้อย่างหนึ่ งว่าเราจะไม่เป็นเหมือนแม่หรอก. .. เชย
นับจากบรรทัดแรก จนมาถึงบรรทัดนี้เวลาก็ผ่ านไปหลายปีแล้ว
สมควรที่พวกเราจะแต่งงานมี ครอบครัวเป็นของตนเองสักที
ว่าแล้วเราก็ย้ายออกจา กบ้านแม่ มายืนด้วยลำแข้งของตัวเอง อย่างที่แม่เคยพูดไง แล้วทำไมต้องมาทำตาละห้อยด้วยล่ ะ
วันที่เราย้ายออกมาน่ะ มันก็ไม่ได้ใกล้ มันก็ไม่ได้ไกลหรอกนะ
ไอ้ที่ย้ายออกมาน่ะ แต่เวลามันรัดตัวจริงๆใช้โทร.คุ ยกันก็ได้นะแม่นะ
สมควรที่พวกเราจะแต่งงานมี
ว่าแล้วเราก็ย้ายออกจา กบ้านแม่ มายืนด้วยลำแข้งของตัวเอง อย่างที่แม่เคยพูดไง แล้วทำไมต้องมาทำตาละห้อยด้วยล่ ะ
วันที่เราย้ายออกมาน่ะ มันก็ไม่ได้ใกล้ มันก็ไม่ได้ไกลหรอกนะ
ไอ้ที่ย้ายออกมาน่ะ แต่เวลามันรัดตัวจริงๆใช้โทร.คุ
ถึงวันที่เรามีลูก แม่ยังพยายามอยากมาทำตัวเป็ นภาระกับลูกเราด้วย
เราบอกแม่ว่าไม่ต้องมายุ่งหรอก เราดูแลลูกของเราได้
เด็กสมัยนี้มันไม่เหมือนกับสมั ยแม่แล้วล่ะ
เราบอกแม่ว่าไม่ต้องมายุ่งหรอก เราดูแลลูกของเราได้
เด็กสมัยนี้มันไม่เหมือนกับสมั
แม่อายุเกือบหกสิบปีแล้ว โทร.มาไอแค่กๆ บอกไม่ค่อยสบาย
เราบอกแม่ว่าอย่าคิดมาก ในใจเรารู้อยู่แล้วว่าแม่ พยายามเรียกร้องความสนใจ นั่นเป็นพัฒนาการตามธรรมชาติ ของคุณแม่วัยนี้
เราบอกแม่ว่าอย่าคิดมาก ในใจเรารู้อยู่แล้วว่าแม่ พยายามเรียกร้องความสนใจ นั่นเป็นพัฒนาการตามธรรมชาติ
จวบจนกระทั่งวันหนึ่ง คุณโทร.กลับไปที่บ้านแม่ แต่...ไม่มีคนรับสายแล้ว อย่าเพิ่งตกใจแม่อาจจะออกไปทำบุ ญที่วัดตามประสาคนแก่ก็ได้
ลองโทร.เข้ามือถือแม่ดูซิ ....ไม่มีสัญญาณตอบรั บจากเลขหมายที่ท่านเรียก...
ลองโทร.เข้ามือถือแม่ดูซิ ....ไม่มีสัญญาณตอบรั
อย่าเพิ่งด่วนสรุป มือถือแม่อาจจะแบตหมดก็ได้
ผู้หญิงคนนี้กระดูกเหล็กจะตายไป เธอต้องไม่เป็น อะไรแน่ๆ คิดฟุ้งซ่านไปได้
ยังไงแม่ก็ต้องรอเราอยู่เหมื อนเดิมน่ะแหล ะไปหาเมื่อไหร่ก็ต้องเจอ
อย่างมากแกก็อาจจะงอนนิดๆ หน่อยๆ พอเห็นหลาน ตัวเล็กๆ วิ่งเข้าไปกอดก็ขี้คร้านจะอ่ อนยวบเป็นขี้ผึ้ง
ผู้หญิงคนนี้กระดูกเหล็กจะตายไป เธอต้องไม่เป็น อะไรแน่ๆ คิดฟุ้งซ่านไปได้
ยังไงแม่ก็ต้องรอเราอยู่เหมื
อย่างมากแกก็อาจจะงอนนิดๆ หน่อยๆ พอเห็นหลาน ตัวเล็กๆ วิ่งเข้าไปกอดก็ขี้คร้านจะอ่
หลายวันผ่านไป ทำไมแม่ยังไม่โทร.กลับมาอีกนะ
ทำบุญตักบาตรก็ไม่น่าจะรอคิ
ต่อให้เป็นแบตเตอรี่รถสิบล้อป่
วันนี้แวะไปหาแม่สักหน่อยดีกว่า ระหว่างทางที่คุณขับรถไป ลูกคุณซนเป็นลิงอยู่ข้างๆ
ประโยคมากมายที่หลุดจากปากคุณ ล้วนเเต่เป็นคำที่แม่คุณเคยพู
คุณเพิ่งสัมผัสได้ภาพเก่าๆ มากมายที่ผู้หญิงคนนั้นทำวิ่
คุณจะสารภาพผิด แล้วทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น
แล้วคุณก็ได้เจอคนที่คุณรู้สึ กว่าเธอเป็นภาระให้กับคุณมาตั้ งแต่เกิด
....ผู้หญิงคนนั้น นอนตายในท่าที่คอยคุณมาตลอดชีวิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น